มิเตอร์ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ไว้ใช้วัดปริมาณกระแสไฟฟ้า ซึ่งเสมือนว่าได้ทำการขอใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว โดย ขนาดมิเตอร์ไฟที่เหมาะสมกับบ้าน นั้นจะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการขอใช้บริการไฟฟ้า ซึ่งมีค่าธรรมเนียมหลายอย่าง และยิ่งไปกว่านั้นหากเราขอใช้ไฟฟ้ามาก (ปริมาณกระแสไฟฟ้ามาก) ก็จะทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้มากขึ้นไปด้วย  แถมค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นหากเราไม่ได้ใช้ไฟฟ้ามากถึงขนาดนั้น อย่างไรก็ตามหากเลือกขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าเล็กเกินไปทำให้ไม่สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้หลายๆเครื่องพร้อมกัน และอาจมีปัญหาการใช้ไฟฟ้าก็เป็นได้ โดยทั่วไปการไฟฟ้าฯจะทำการสอบถามเราในเบื้องต้นก่อนที่เราจะขอใช้ไฟฟ้าอยู่แล้ว ซึ่งเขาจะเลือกขนาดมิเตอร์ที่เหมาะสมให้ E-Fix ช่าง 24 ชั่วโมง เว็บสำหรับคนที่ต้องการ หาช่างเชียงใหม่ จะขอแนะนำการ วิธีเลือกมิเตอร์ไฟให้เหมาะกับบ้าน เพื่อให้ท่านผู้อ่านมีความรู้ในเรื่องของมิเตอร์ไฟฟ้าในเบื้องต้น หากมีปัญหาหรือต้องการเปลี่ยนมิเตอร์เพื่อเพิ่มขนาด การใช้ไฟและอาจได้มีโอกาสลองไปตรวจเช็คขนาดมิเตอร์ด้วยตนเองว่ามิเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้อยู่ทุกวันนี้เหมาะสมหรือไม่ ?

 


มิเตอร์ไฟที่เหมาะกับบ้าน มีขนาดไหนบ้าง ?

มิเตอร์ไฟที่ใช้กันในทุกวันนี้มีหลายขนาด โดยสามารถสังเกตได้จากตัวเลขในช่องบนมิเตอร์ เช่น 5(15) A หมายถึง เป็นมิเตอร์ไฟขนาด 5 แอมป์ สามารถใช้ไฟได้มากถึง 15 แอมป์ โดยมีขนาดต่างๆ ดังต่อไปนี้

– ขนาดมิเตอร์ 5(15) เฟส 1 ขนาดการใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน 10 แอมแปร์

– ขนาดมิเตอร์ 15(45) เฟส 1 ขนาดการใช้ไฟฟ้า 11-30 แอมแปร์

– ขนาดมิเตอร์ 30(100) เฟส 1 ขนาดการใช้ไฟฟ้า 31-75 แอมแปร์

– ขนาดมิเตอร์ 50(150) เฟส 1 ขนาดการใช้ไฟฟ้า 76-100 แอมแปร์

– ขนาดมิเตอร์ 15(45) เฟส 3 ขนาดการใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน 30 แอมแปร์

– ขนาดมิเตอร์ 30(100) เฟส 3 ขนาดการใช้ไฟฟ้า 31-75 แอมแปร์

– ขนาดมิเตอร์ 50(150) เฟส 3 ขนาดการใช้ไฟฟ้า 76-100 แอมแปร์

– ขนาดมิเตอร์ 200 เฟส 3 ขนาดการใช้ไฟฟ้า 101-200 แอมแปร์

– ขนาดมิเตอร์ 400 เฟส 3 ขนาดการใช้ไฟฟ้า 201-400 แอมแปร์

 

 

 

 

เลือกมิเตอร์ไฟให้เหมาะกับบ้าน

 

การเลือกขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าที่เล็กเกินไปทำให้ไม่สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้หลายๆเครื่องพร้อมกัน อย่างไรก็ตามหากเลือกขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าใหญ่เกินไปก็สูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ตามที่ได้เกริ่นไปบ้างแล้ว

วิธีเลือกมิเตอร์ไฟให้เหมาะกับบ้าน ในเบื้องต้นจะต้องคำณวณหาปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ต้องใช้ภายในบ้านก่อน โดยให้หาปริมาณกระแสไฟฟ้าของแต่ละชนิดก่อนว่าใช้ไปเท่าไหร่ โดยตรวจดูกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์แต่ละชนิด จากฉลากที่ติดมากับเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจจะติดไว้ที่บริเวณด้านบน ด้านหลัง หรือด้านล่าง กำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์มีหน่วยเป็นวัตต์ (W) จากนั้นคำณวนหา ปริมาณกระแสไฟฟ้า ของอุปกรณ์ชนิดนั้น โดยใช้สูตรในการคำณวณ คือ

 

I = P ÷ V

และคูณด้วย x จำนวนอุปกรณ์/เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้น

 

P คือ กำลังไฟฟ้า (หน่วยเป็น W วัตต์)

I คือ ปริมาณกระแสไฟฟ้า (หน่วยเป็น A แอมแปร์ )

V คือ แรงดันไฟฟ้า (หน่วยเป็น V โวลต์ ในบทความนี้อ้างอิงถึงหน่วยไฟฟ้า 1 เฟส 220 V. ซึ่งบ้านส่วนใหญ่จะใช้ 1 เฟส  )

 

ตัวอย่าง – ทีวี (50 นิ้ว) 145W   1 เครื่อง   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = 145 ÷ 220 = 0.65 A. แอมแปร์

พัดลม 75W   2 ตัว   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = (75 ÷ 220) x 2 = 0.68 A. แอมแปร์

 

เมื่อหาปริมาณกระแสไฟฟ้าทั้งหมดของอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าได้แล้ว ให้นำมาบวกรวมกัน และคูณด้วย x 1.25 (ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อาจใช้มากขึ้นในอนาคตข้างหน้า) = จะได้ขนาดมิเตอร์ไฟที่เหมาะกับบ้าน โดยขอยกตัวอย่างเพื่อที่จะได้เข้าใจ ดังนี้

 

  1. หลอดไฟ LED 18W   6 หลอด   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = (18 ÷ 220) x 6 = 0.49 แอมแปร์
  2. พัดลม 100W   2 เครื่อง   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = (100 ÷ 220) x 2 = 0.91 แอมแปร์
  3. เครื่องปรับอากาศ 1,100W   2 เครื่อง   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = (1,100 ÷ 220) x 2 = 10 แอมแปร์
  4. ทีวี 125W   1 เครื่อง   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = 125 ÷ 220 = 0.57 แอมแปร์
  5. คอมพิวเตอร์ 450W   1 เครื่อง   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = 450 ÷ 220 = 2.04 แอมแปร์
  6. ตู้เย็น 70W   1 เครื่อง   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = 70 ÷ 220 = 0.32 แอมแปร์
  7. หม้อหุงข้าว 600W   1 เครื่อง   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = 600 ÷ 220 = 2.72 แอมแปร์
  8. เครื่องซักผ้า 1000W   1 เครื่อง   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = 1,000 ÷ 220 = 4.54 แอมแปร์
  9. เครื่องทำน้ำอุ่น 4,500W   1 เครื่อง   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = 4,500 ÷ 220 = 20.45 แอมแปร์
  10. เตารีด 2,500W   1 เครื่อง   คำณวนปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ = 2,500 ÷ 220 = 11.36 แอมแปร์

 

รวมกระแสฟ้าทั้งหมด = 0.49+0.91+10+0.57+2.04+0.32+2.72+4.54+20.45+11.36 = 53.4 A. แอมแปร์

และคูณด้วย x 1.25 เผื่อปริมาณกระแสไฟฟ้า จะได้ 53.4 x 1.25 = 66.75 A. แอมแปร์

 

 

ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ต้องใช้ภายในบ้าน ที่เราได้ทราบจากการคำณวณ คือ 66.75 แอมแปร์ ดังนั้นจึงควรเลือกมิเตอร์ไฟที่เหมาะกับบ้าน คือ ขนาด 30(100) แอมแปร์ ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ไฟฟ้าแล้ว และยังเผื่อไว้ถึง 100 แอมแปร์ด้วย จากการคำณวณเราคิดปริมาณการใช้งานทั้งหมดเหมือนกับว่าเราได้เปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกัน ซึ่งในชีวิตจริงนั้นเราไม่ได้ใช้ไฟฟ้าในลักษณะนั้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามหากในอนาคตเรามีสมาชิกในบ้านเพิ่มหรือได้ทำการต่อเติมบ้าน หรือได้ทำการหาอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้ามาไว้เพิ่ม ก็ให้คิดคำณวณเผื่อไว้ได้เลยครับ (ใช้ปริมาณกระแสไฟฟ้ามากขึ้นอย่างแน่นอน) ถ้าขนาดมิเตอร์ที่ใช้อยู่ปัจจุบันไม่เพียงพอ หรือใกล้แล้วอาจจะวางแผนเตรียมไปขอเพิ่มขนาดกับการไฟฟ้า หรือ ถ้ายังไม่ได้ทำการติดตั้งมิเตอร์กำลังพิจารณาในเรื่อง วิธีเลือกมิเตอร์ไฟให้เหมาะกับบ้าน อยู่ถือเป็นเรื่องดีที่จะได้วางแผนระบบไฟฟ้าภายในบ้านไปในตัวด้วยเลย

 

ท่านใดหากมีคำถาม ปัญหาในเรื่องของระบบไฟฟ้า หรือต้องการสอบถามในเรื่องของการเลือกมิเตอร์ไฟให้เหมาะกับบ้านสามารถปรึกษากับทางเรา E-Fix ช่าง 24 ชั่วโมง ได้เลยเรายินดีให้คำปรึกษาในเรื่องงานซ่อม หรือหากต้องการ หาช่างเชียงใหม่ ไปช่วยตรวจสอบแก้ไขปัญหาด้านงานซ่อมต่างๆ สามารถเรียกใช้บริการกับทางเราได้ เรามีทีมงานช่างที่มีประสบการณ์พร้อมที่จะไปช่วยแก้ไขปัญหาให้กับทุกท่าน ด้วยบริการคุณภาพ และราคาที่เป็นมาตรฐาน พร้อมการรับประกันงานซ่อมให้ทุกงานที่เราไปดำเนินตามเงื่อนไขการให้บริการที่เรานำเสนอ

 


 

ติดต่อสอบถามบริการ/ปรึกษางานช่าง

📱 LINE ID : @efix หรือ https://line.me/R/ti/p/%40lal1381l

☎ Call center : 093-161-5000

🌐 Website : http://efix.in.th